บทสัมภาษณ์ B.A.P ในนิตยสาร Dazed & Confused Magazine

Translator: Cho
Original post: http://www.bapyessir.com/2014/06/bap-for-dazed-confused-magazine.html

เพื่อเป็นการฉลองการเปิดเว็บเกาหลีพี่น้องใหม่ของเราที่จะเปิดตัวในสุดสัปดาห์นี้ วันนี้เราได้มาเจาะลึกอิทธิพลทางศิลปะวัฒนธรรมและนวัตกรรมของผู้ริเริ่มสร้างสรรค์ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดของประเทศ ท่องไปในโลกของเคป็อบกับบทสัมภาษณ์ B.A.P, Taeyang, และ 4minute พบกับนักแสดงหญิงจากเรื่อง Snowpiercer โคอาซอง และแอบดูชีวิตในเกาหลีเหนือแบบออนไลน์ คอยพบกับสิ่งใหม่ๆได้ที่นี่ทั้งวัน

บังยงกุกกำลังใช้ความพยายามแทงแบบหันหลังที่โต๊ะพูลในBrixton Academy green room ถึงจะไม่ค่อยเป็นไปตามที่คิดไว้ แต่เพื่อนร่วมวงB.A.P - วงบอยแบนด์เกาหลีแนวฮิปฮอปที่มาแรงที่สุด - ก็ส่งเสียงเชียร์เขาอยู่ พวกเขาทั้งหกมาเพื่อเล่นคอนเสิร์ตในสถานที่ที่จุได้ถึง5000ที่นั่ง รวมถึงถ่ายทำมิวสิควิดิโอของซิงเกิ้ลใหม่ "Where Are You? Waht Are You Doing?" ที่ริมแม่น้ำเทมส์ พวกเขาตัวเปียกกันหมด แต่ยองแจวัย20ก็บอกว่าไม่เป็นปัญหาสำหรับพวกเขาแต่ตื่นเต้นมากกว่า

ความกระตือรือร้นของพวกเขาราวกับติดต่อกันได้ พวกเขายังคงเป็นB.A.Pที่ยุ่งตลอดเวลาแต่ยังสามารถทำอะไรใหม่ๆออกมาได้เสมอ ซึ่งต่างจากบอยแบนด์สัญชาติเดียวกันจริงๆ พวกเขาเดบิวท์ในปี2012ด้วยเพลงที่หนักหน่วงเร้าใจอย่างWarrior และหลังจากที่ทำการโปรโมตอย่างไม่มีหยุดหย่อนภายในเวลาสองปี วงนี้ก็ได้ชนะรางวัลแรกในรายการเพลงของเกาหลีเมื่อต้นปี ด้วยบทเพลงมีจังหวะอย่าง 1004(Angel) ซึ่งต่างจากเพลงฮิต Monster ของวงฮิปฮอปบอยแบนด์ BIGBANG เพลงที่ทำให้คนทั่วไปรับรู้ถึงB.A.Pนั้นเป็น First Sensibility อัลบั้มเต็มอัลบั้มแรก ที่ทำให้พวกเขาเป็นอันดับหนึ่งในชาร์ตเกาหลี

ตารางงานที่ยุ่งเหยิงนั้นหมายถึงการที่ได้มาเจอกับB.A.P - ที่นั่งส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดจากการที่ชุดหนังเสียดสีกับเบาะโซฟาหนัง - นั่นน่ะเป็นงานหินสุดๆเลย แม้ตอนนี้เราเริ่มถ่ายทำแล้วแต่หกสมาชิกยังคงสุภาพ ขี้อาย และเป็นกันเองทั้งยังถ่อมตัวเล็กน้อย แดฮยอนที่ตกจากเวทีอย่างน่าตื่นเต้นที่นิวยอร์คในช่วงเพลง Punch เขาส่ายหัว "ผมตื่นเต้นเกินไปครับ" เขาพูดอย่างเศร้าสร้อย ในขณะที่ฮิมชานกับยองแจพยายามกลั้นยิ้มกันสุดๆ "มันน่าอายมากเลย"

เซโล่ที่จะส่ายก้นให้แฟนๆได้คลั่ง เขาเงียบกว่า "ผมพูดไม่ค่อยเก่งครับ เวลาผมพูดผมจะหลุดประเด็น กลายเป็นพูดถึงเรื่องอื่นแทน!" ระหว่างนั้นยงกุกก็ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นด้านศิลปะ ปีกัสโซ่กับโกแก็งที่เขาได้ชมที่MOMA "บุคลิกของพวกเขามีอิทธิพลมากและการที่แสดงออกมานั้นเป็นประโยชน์กับผมมากครับ เวลาผมเหนื่อย ศิลปะกับภาพยนตร์ช่วยผ่อนคลายผมได้" เขาอธิบาย เราได้ถ่ายรูปกันแล้ว เวลาช่างผ่านไปเร็ว เสียงกรีดร้องจากสาวน้อยวัยรุ่น (และแฟนบอยด้วย) ในโถงหลักรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทุกอย่างสมบูรณ์แบบแต่ยังคงเรียบง่าย ฉากต่างๆ - แดนเซอร์, วิดิโอที่ฉาย, ชุดต่างๆมากมาย, ไม่มีพลุ - ก็กำลังจะออกไปแล้ว แต่อีกวันต่อไปพวกเขาก็ยังคงอยากพูดคุยอีก
คุณได้ทำงานร่วมกับนักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์ในอัลบั้ม BADMAN เช่นเดียวกับ (อัลบั้มล่าสุด) First Sensibility การมีส่วนร่วมของคุณนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างในเวลาที่ผ่านมา?

บังยงกุก: ผมพยายามที่จะมีส่วนรวมในงานอย่างต่อเนื่องครับ ทุกอัลบั้มของB.A.Pนั้นมีความหมาย แต่ผมรู้สึกผูกพันกับ BADMAN มากกว่า เพราะผมได้สัมผัสกับบทบาทโปรดิวเซอร์และเรียนรู้ขั้นตอนหลายๆอย่าง ตอนนั้นผมได้รับอิทธิพลอย่างมากจากปัญหาสังคมรอบตัว ซึ่งนั่นทำให้ข้อความในเพลงออกจะรุนแรง ดนตรีจะดิบๆตรงๆมาก First Sensibilityก็ทำให้ผมได้ท้าทายตัวเองในอีกแนวดนตรีที่ต่างไป รวมถึงประสบการณ์ในช่วงBADMAN มีส่วนร่วมในมิวสิควิดิโอ ภาพลักษณ์และอาร์ตเวิร์ค ผมยังมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้แต่ผมสัญญาว่าจะเติบโตขึ้นเพื่อโปรดิวซ์เพลงที่เต็มไปด้วยแนวทางของผมครับ

แม้คุณจะดูเป็นคนจริงจังและเงียบขรึม แต่ด้านที่สดใสก็ได้ปรากฎเมื่ออยู่กับคนอย่างฮิมชานหรือจงออบ อะไรคือสิ่งที่พวกเขาทำให้คุณหัวเราะได้?

บังยงกุก: ผมไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนตลกนะครับ แต่อยู่กับคนที่รู้จักผมดี ผมจะกลายเป็นเด็กไปเลยล่ะ! (หัวเราะ) พวกเขายอมรับในตัวผม ผมเลยไม่รู้สึกว่าต้องเว้นระยะห่างหรือพยายามทำตัวให้ดี กับB.A.P โดยเฉพาะฮิมชานกับจงออบ เป็นคนที่ผมแชร์ทุกอย่างด้วย และเรารู้ว่าจะทำให้อีกฝ่ายมีความสุขอย่างไร ฮิมชานมักจะเป็นคนตรงๆเท่ๆในด้านที่คาดเดาไม่ได้ ซึ่งจะทำให้ผมหัวเราะ แล้วก็ไม่เคยรู้เลยว่าเรื่องไม่ธรรมดาอะไรที่จงออบจะพูดถึง เขาทำให้ผมหัวเราะอย่างไม่รู้ตัวเลยครับ
"ยงกุกฮยองไม่ใช่แค่เป็นหัวหน้าวงแต่ยังเป็นแกนกลางของB.A.P ผมไว้ใจเขาและอยากจะเป็นที่จดจำด้านความสามารถในฐานะนักร้องสำหรับยงกุกฮยอง เพื่อที่จะได้รู้ว่าผมได้เติบโตขึ้นอย่างดีครับ" - จองแดฮยอน
คุณได้พูดถึงสมาชิกบนเวทีคอนเสิร์ตเมื่อต้นปีนี้ และบอกว่าแดฮยอนเป็นคน "อ่อนไหว" ซึ่งน่าสนใจมากเพราะเขาดูเป็นคนเสียงดังสนุกสนานมากกว่าจะเป็นคนอ่อนไหว แดฮยอนที่เราไม่เคยเห็นเป็นคนอย่างไรหรือ?

บังยงกุก: แดฮยอนเป็นนักร้องพรสวรรค์ที่ไม่มีใครแทนที่ได้ ต่อหน้ากล้องเขาจะร่าเริงกล้าแสดงออก หลายคนเลยคิดว่าเขาจะเป็นคนโหวกเหวกสนุกสนาน แต่นั่นไม่ใช่นิสัยทั้งหมดของเขาครับ แดฮยอนเป็นผู้ใหญ่เร็ว เขาเป็นคนที่เอาใจใส่คนรอบข้างด้วยการให้ไปทุกอย่างและเชื่อใจเต็มที่ แม้ว่าเขาจะมีจิตใจที่อ่อนโยน เวลาที่เขาทำตัวเข้มแข็งผมก็รู้สึกภูมิใจแต่ก็เห็นใจด้วย แดฮยอนไม่อยากให้ใครเห็นความอ่อนแอ ด้านที่อ่อนไหวนี้คงจะมีแต่พวกเราที่ได้เห็น แต่ด้วยการสนับสนุนของเรา ผมหวังว่าเขาจะแข็งแกร่งได้เหมือนกับเสียงร้องของเขาครับ

ยงกุกได้พูดถึงสมาชิกแต่ละคนในระหว่างการแสดงในต้นปีนี้ แล้วคุณก็รู้สึกสะเทือนอารมณ์มาก...

จองแดฮยอน: ยงกุกฮยองไม่ใช่แค่เป็นหัวหน้าวงแต่ยังเป็นแกนกลางของB.A.P ผมไว้ใจเขาและอยากจะเป็นที่จดจำด้านความสามารถในฐานะนักร้องสำหรับยงกุกฮยอง เพื่อที่จะได้รู้ว่าผมได้เติบโตขึ้นอย่างดีครับ การที่เราอยู่ด้วยกันตลอดเวลามันทำให้เรารู้สึกแปลกๆที่จะพูดคำอย่าง "ขอบคุณ" "ขอโทษ" "รักนะ" ผมรู้สึกขอบคุณนะครับ แต่ก็รู้สึกแย่ที่ไม่อาจเข้าถึงเขาได้เวลาที่ผมไม่สามารถแสดงตัวตนออกมา เพราะผมรู้ว่าเขาก็รู้ทุกอย่างอยู่ดี คำสารภาพบนเวทีทำให้ความรู้สึกของยงกุกฮยองนั้นหนักแน่นขึ้นเพราะปกติแล้วเขาจะไม่เปิดเผยทันทีแบบนั้น มันรู้สึกเหมือนกับผมสามารถทำได้ทุกอย่างโดยที่มีเขาคอยมองดูเราเงียบๆด้วยน้ำเสียงที่เชื่อมั่นครับ

ช่วงที่ทำอัลบั้ม First Sensibility ... เพลงไหนที่โดดเด่นสำหรับคุณมากที่สุด?

จองแดฮยอน: "BANGX2"! การซ้อมร้องยากมากเลยครับ แต่ผมรู้สึกได้ถึงความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ "Body&Soul" ก็ยากเหมือนกันในตอนแรก เพราะมันมีอารมณ์เซ็กซี่ที่ผมไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไหร่ ผมต้องใส่ใจอย่างสุดๆเพื่อสร้างบรรยากาศนุ่มนวลที่จะละลายลงไปในเพลง การตอบรับของแฟนๆก็ดีมากเลยครับ

B.A.Pทำงานกันอย่างหนักเพื่อไล่ตามความฝัน แต่ก็ไม่เคยหยุดพักเลยไม่ว่าจะมีใครป่วยหรือเหนื่อยล้าก็ตาม เคยมีความคิดที่อยากจะเลิกทำบ้างไหม?

จองแดฮยอน: ตารางงานที่แน่นเอี๊ยดทำให้ผมรู้สึกเหนื่อยหรือสภาพร่างกายแย่ แต่ผมไม่เคยรู้สึกกดดันหรือเครียดเลยครับ ตอนอยู่บนเวทีผมรู้สึกมีพลัง มันเป็นที่ที่แสดงถึงการมีอยู่ของเราและความเชื่อมั่นที่เราต้องการทำออกมาให้ดีที่สุด ผมมีความรับผิดชอบต่อผู้คนที่มาเพื่อดูเรา เสียงเชียร์และพลังหลังจากการแสดงที่สมบูรณ์แบบนั้นเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่ผมได้รับเลยครับ!

ถึงฮิมชานจะถ่ายรูปมากมาย แต่คุณก็ซื้อกล้องมาเหมือนกันนี่...

ยูยองแจ: ผมเป็นช่างภาพลึกลับของB.A.Pครับ! (หัวเราะ) ผมรู้สึกชอบเพราะนอกจากจะเป็นการเก็บช่วงเวลานั้นๆแล้ว มันยังสะท้อนตัวตนของผมอีกด้วย ถ้าผมถ่ายรูปอะไรบางอย่างนั่นก็หมายความว่าสิ่งนั้นมีความหมายสำหรับผมครับ มันแสดงถึงสิ่งที่ผมกำลังพยายามอย่างหนัก สิ่งที่ผมสนใจ และสิ่งที่ผมประทับใจ

การเป็น "มันสมองช่างพูด" เป็นสิ่งที่คุณอธิบายตัวเองตั้งแต่เริ่มเดบิวท์ในปี2012 แล้วยองแจในปี2014เป็นคนอย่างไร?

ยูยองแจ: ผมแน่ใจว่ายองแจปี2014นั้นต่างจากยองแจในอดีตแน่นอนครับ ผมว่ามันยากที่จะแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา แต่ด้านนั้นของตัวผมค่อนข้างจะเย็นชาและอาจจะทำให้คนเจ็บปวดได้ ตอนแรกผมคิดว่า "ทำไมพวกเขาไม่เข้าใจนะ?" แต่ผมก็ได้เข้าใจว่าความสัมพันธ์นั้นไม่ได้สร้างขึ้นมาได้ภายในพริบตา ผมสื่อความเชื่อมั่นและความรักออกไปเสมอ เพราะงั้นในปีนี้ผมเลยสัญญาอย่างนั้นกับคนรอบข้างครับ ถึงจะยังน่ากระอักกระอ่วนและไม่คุ้นเคยแต่ผมก็จะพยายามให้ดีที่สุด ผมอยากจะพูดว่า 'ยองแจปี2014' จะไม่กลัวที่จะเข้าหาคนอื่นด้วยความจริงใจที่อบอุ่นครับ
"เราไม่เคยปิดบังอะไรต่อกัน เราสนิทกันมากจนรู้ได้ว่าเมื่อไหร่ที่เราจะคิดถึงความรู้สึกของกันและกัน" - เซโล่
คุณบอกว่าซิงเกิ้ลแรก Warrior เป็นเพลงที่แสดงความเป็นB.A.Pได้มากที่สุด แต่เราไม่เห็นเพลงแบบนั้นในอัลบั้มนี้เลย มันเป็นแนวเพลงที่คุณอยากจะกลับไปทำหรือเปล่า? หรือการพัฒนาไปข้างหน้านั้นสำคัญกว่า?

ยูยองแจ: ผมยังคงรู้สึกว่า "Warrior" เป็นเพลงที่แสดงความเป็นB.A.Pทั้งในทางดนตรีและข้อความที่สื่อออกมาได้ดีที่สุดครับ แต่เพราะว่าเราได้เรียนรู้และเติบโตขึ้น ดนตรีและสังคมก็เปลี่ยนไปไม่เคยหยุด เรื่องราวที่เราสื่อออกมา และผู้คนที่ฟังเพลงก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ผมไม่อยากที่จะทำคอนเซ็ปต์เดิมๆด้วยข้ออ้างว่านั่นคือแนวทางของผม แต่อยากจะร้องเพลงที่เต็มไปด้วยความรัก ความยินดี ความโกรธเกรี้ยว ความเศร้าโศก และความโหยหา ที่ทุกคนสามารถรู้สึกร่วมกันได้ครับ

คุณเคยคิดที่จะนำความสามารถด้านจังกู (กลองพื้นบ้านเกาหลี) มาแสดงบ้างหรือเปล่า? ถ้าเล่นแบบ 'free jazz' ร่วมกับวงน่าจะดีเลยนะ

คิมฮิมชาน: เมื่อเร็วๆนี้ผมได้เล่นจังกูในรายการทีวี ผมคิดว่าหลายคนคงรู้สึกประทับใจครับ ผมฝึกซ้อมทุกวันเป็นเวลาไม่กี่สัปดาห์ ผมรู้สึกแย่ที่ไม่สามารถแสดงเสน่ห์ของมันออกมาได้อย่างเต็มที่ ถ้าเราเพิ่มจังกูหรือเครื่องดนตรีโบราณอื่นๆ การแสดงคงจะออกมาแตกต่างไปเลยครับ เพื่อการเตรียมพร้อมนั้นผมต้องเตรียมตัวอย่างมากเลย!

ตำแหน่งของคุณคือคนสร้างบรรยากาศ/หน้าตาของวง ซึ่งบางครั้งก็หมายถึงพรสวรรค์ที่คุณแสดงออกมาในB.A.Pนั้นถูกมองข้ามอย่างไม่ยุติธรรม ยงกุกยังเคยบอกว่าเพลงของB.A.Pนั้นไม่ได้ใช้ความสามารถของเสียงร้องของคุณได้เต็มที่ คุณรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้?

คิมฮิมชาน: ถึงผมจะบอกว่า 'ผมเป็นหน้าตาของB.A.P' แต่ผมแค่พูดเล่นนะครับ ในทางดนตรีนั้นยังมีอีกมากที่ผมจะต้องเรียนรู้ ผมเลยอยากจะหาบทบาทที่โดดเด่นด้วยการลองทำอะไรที่ต่างไปแทนที่จะตัดสินว่าอะไรคือตำแหน่งของผม คำว่า 'หน้าตาของวง' เป็นคำชมที่ดีมากครับ และที่สำคัญคือเป็นโอกาสที่จะได้เปล่งประกาย เพื่อที่จะคว้าโอกาสนั้น ผมจะต้องพัฒนาความสามารถของตัวเอง ผมคิดว่าผมมีแนวการร้องที่พิเศษ แต่เมื่อเห็นสมาชิกคนอื่นซ้อมร้องเพลงอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ผมก็คิดว่า 'ถ้าพยายามให้มากอย่างนั้นก็จะพัฒนาขึ้นได้' ผมจะเติบโตให้เข้มแข็งขึ้น เพราะงั้นช่วยคอยดู 'นักร้องของB.A.P ฮิมชาน' ด้วยนะครับ

เราเคยเห็นคุณใส่เสื้อยืด Chanel/Chanie อย่างหน้าชื่นตาบาน.. ถ้ามีโอกาสอยากจะลองออกแบบดูบ้างไหม?

คิมฮิมชาน: แน่นอนครับ! สัญลักษณ์เริ่มมาเพราะผมคิดว่ามันคงดูตลกดี แต่ตอนนี้มีหลายคนที่ใส่เสื้อหรือเครื่องประดับโลโก้ 'Chanie' คงจะสนุกนะครับถ้าได้ออกแบบเสื้อผ้าของB.A.Pหรือมีแบรนด์ของตัวเอง ผมยังไม่คิดถึงคอนเซ็ปต์เสื้อผ้าของตัวเองเลยครับ แต่เสื้อผ้าที่ผมสนใจก็ตั้งแต่แนวสตรีทแฟชั่นจนถึงแบบเรียบง่าย ผมเลยอยากจะออกแบบสไตล์ที่ไร้ข้อจำกัดน่ะครับ

แดฮยอนเผยว่าคุณนอนละเมอฝันเสียงดัง แล้วจำได้ไหมว่าฝันดีหรือฝันร้ายอะไร?

คิมฮิมชาน: เวลาเหนื่อยๆบางครั้งผมจะฝันร้ายครับ ช่วงนี้ผมมักจะฝันน่ากลัวๆว่าเรากำลังถูกอะไรบางอย่างไล่ตาม ในความฝันนั้นทั้งสต๊าฟกับแดนเซอร์ก็วิ่งหนีไปกับเราด้วย คงเป็นเพราะผมเห็นน้องๆในวงอ่านหนังสือการ์ตูนหรือดูหนังการ์ตูนที่มีตัวละครน่ากลัวน่ะครับ (หัวเราะ)

คุณ(และเซโล่)ได้มีส่วนร่วมในการออกแบบท่าเต้นเพลง 1004(Angel) เป็นอย่างไรบ้าง? ทำออกมาโดยสัญชาตญาณหรือได้วางแผนไว้อย่างพิถีพิถันแล้ว?

มุนจงออบ: เซโล่กับผมคิดเรื่องการเต้นตอนเริ่มเพลงเพราะเรารู้สึกว่าน่าจะมีอะไรบางอย่างที่ดึงความสนใจของผู้ชมตั้งแต่เริ่มน่ะครับ เราพยายามลองหลายๆท่าเพื่อสร้างอารมณ์ของเพลงและดึงความเป็นตัวเราออกมา ถึงแม้เราสองคนจะมีสไตล์ที่ต่างกัน แต่เราก็หาทางรวมเข้าด้วยกันได้ ผมรู้สึกเหมือนว่ากำลังออกแบบการแสดงทั้งหมดไม่ใช่แค่การเต้นเฉยๆ เพราะงั้น ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากจะมีส่วนรวมในการแสดงของB.A.Pมากขึ้นครับ!

เป็นที่รู้กันดีว่าคุณชอบมังงะ(หนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น)/อนิเม ถ้ามีโอกาสได้พากย์เสียงตัวละครจากการ์ตูนหรือภาพยนตร์ที่ชอบ คุณจะพากย์เสียงใคร?

มุนจงออบ: โอลาฟจากเรื่องFrozenครับ! การคิดในแง่บวกของเขาคล้ายกับผมมาก การที่ไม่รู้จักความเป็นไปไม่ได้นั้นน่าสนใจมากเลยครับ ผมชอบเรื่องนี้มานานแล้ว และได้ลองเลียนแบบเสียงโอลาฟด้วย แต่ก่อนผมเคยเลียนแบบHaunterจากเรื่องโปเกม่อน แย่จังเลยนะครับที่โปเกม่อนไม่มีบทพูด มีแค่ทำเสียงซ้ำๆเท่านั้น ผมจะพยายามเลียนแบบให้ดีถ้าอยากให้ผมทำนะครับ! (หัวเราะ)

แม้คุณใกล้จะอายุ18แล้ว แต่ก็ยังมีเบบี้ (แฟนคลับB.A.P) ที่อยากให้คุณยังคงเป็นเซโล่ที่ใสซื่อเหมือนตอนเดบิวท์ไปตลอด คุณอยากให้แฟนๆทำอย่างไรกับการที่คุณเริ่มจะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่?

เซโล่: การเป็นน้องเล็กและได้รับความรักจากฮยอง หมายถึงส่วนมากแล้วผมก็ไม่อยากจะโตหรอกนะครับ เป็นเวลานานแล้วที่ผมรู้สึกราวกับอยู่ตรงกึ่งกลาง มองดูโลกของมืออาชีพผ่านทางสายตาของเด็กผู้ชาย บางครั้งผมกังวลว่าผมจะตัดสินใจถูกหรือเปล่า แต่ผมก็อยากจะเป็นผู้ใหญ่ที่ดี เพื่อที่จะตอบแทนความรักที่ผมได้รับมา นิสัยแท้จริงของผมจะไม่เปลี่ยนหรอกครับ ผมเลยไม่คิดว่าแฟนๆจะต้องกังวลอะไร คงจะดีถ้าพวกเขาจะสามารถมองผมเติบโตและภูมิใจไปด้วย

คุณได้เขียนเนื้อเพลงมาตลอด แต่เรายังไม่เคยเห็นเลย...

เซโล่: ผมยังต้องเรียนรู้เพื่อหาแนวทางของตัวเองครับ! ผมได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งรอบข้าง แต่ในระหว่างทัวร์ผมไม่มีเวลาเขียนเลย ปกติผมจะเอาให้ยงกุกฮยองช่วยดู ผมจะจำคำแนะนำแล้วก็จดไว้ บางครั้งความคิดในแต่ละวันก็เป็นแรงบันดาลใจได้แล้วผมก็อาจจะลืมถ้าไม่จดไว้น่ะครับ! มันอาจจะดูไม่สำคัญอะไรแต่สำหรับผมมันคือกล่องสมบัติล่ะ ผมยังเขียนเพลงออกมาให้น่าพอใจไม่ได้ ผมเลยทิ้งมันไป แต่ผมก็เชื่อว่าคงไม่นานนักที่ทุกคนจะได้ฟังคำของผมครับ

แต่ก่อนพวกพี่ๆของคุณมักจะแกล้งคุณบ่อยๆคุณก็ยอม แต่เดี๋ยวนี้เหมือนคุณจะไม่ค่อยยอมแล้วนะ...

เซโล่: ปกติสมาชิกในวงมักจะเล่นสนุกด้วยการหยิกแก้มหรือพยายามเปิดเสื้อผมขึ้นในคอนเสิร์ต แต่ไม่มีอะไรจริงจังครับ แต่เวลาที่ผมไม่อยากเล่น ไม่มีอารมณ์เล่นด้วย ผมก็จะบอกไปตรงๆ ก็เลยไม่มีการผิดใจกันหรอกครับ พวกฮยองเล่นกับผมเพราะเขาคิดว่าผมน่ารัก ส่วนมากพวกเขาจะเป็นห่วงผมมากกว่าจะคอยแกล้ง ที่จริงเราไม่เคยปิดบังอะไรต่อกัน เราสนิทกันมากจนรู้ได้ว่าเมื่อไหร่ที่เราจะคิดถึงความรู้สึกของกันและกันน่ะครับ

© dazedigital.com | bapyessir.com #Cho (Thai)

No comments:

Post a Comment